สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้มีโครงสร้างง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาจมีเซลล์เดียวหรือประกอบด้วย หลายเซลล์ก็ได้แต่ยังไม่รวมเป็นเนื้อเยื่อ เซลล์ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส (Prokaryote cell) สารพันธุกรรมได้แก่กรดนิวคลิอิคประกอบด้วย DNA และ RNA กระจายอยู่ในไซโทพลาซึม ไม่มีออร์แกแนลที่มีระบบเยื่อบาง ๆ หุ้ม ภายในเซลล์มีไรโบโซมขนาดเล็ก ไม่มีระยะเอมบริโอ บางชนิดสามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ แต่คลอโรฟิลล์ไม่ได้อยู่ในคลอโรพลาสต์การแบ่งนิวเคลียสไม่ซับซ้อน สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้แบ่งได้เป็น 2 ดิวิชัน ดังนี้
1. Division Schizophyta (ดิวิชันซิโซไฟตา) ได้แก่แบคทีเรีย
2. Division Cyanophyta หรือ Cyanobacteria (ไซยาโนแบคทีเรีย) ได้แก่สาหร่ายสีเขียวแกม
น้ำเงินดิวิชันชิโซไฟตา (Division Schizophyta) มีลักษณะสำคัญ ดังนี้
ผนังเซลล์คล้ายร่างแห เรียกว่า mucopeptide(มิวโคเปปไทด์) หรือ glucosaminopeptide (กลูโคซามิโนเปปไทด์) เพราะประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตและกรดอะมิโนรูปร่างของแบคทีเรีย มี 3 แบบ คือแบบแท่งหรือท่อนทรงประบอก ได้แก่ พวกบาซิลลัส (Bacillus)
แบบกลมหรือรี ได้แก่ พวกคอกคัส (Coccus)
แบบโค้งงอ ได้แก่ พวกสไปริสลัม (Spirillum) เซลล์คงรูปไม่เปลี่ยนแปลง พวกสไป โรขีต (Spirochete) เซลล์ยืดหยุ่นไม่คงรูป และพวกคอมมา (Comma) เซลล์โค้งคล้ายจุดลูกน้ำ
การเรียงตัวของแบคทีเรีย มีหลายแบบ เช่น
Micrococcus : เซลล์เดี่ยว
Diplococcus : เซลล์เรียงเป็นคู่
Streptococcus : เซลล์เรียงต่อเป็นสาย
Staphylococcus : เซลล์เป็นกลุ่มรูปร่างไม่แน่นอน
การเรียงตัวของแบคทีเรีย ที่มา http://student.ccbcmd.edu/courses/bio141/lecguide/unit1/shape/images/coccus.gif
แบคทีเรียแกรมบวก (Gram positive) ย้อมติดสีน้ำเงินของคริสทัลไวโอเลต (crystal violet)
แบคทีเรียแกรมลบ (Gram negative) ย้อมติดสีแดงของแซฟรานิน (safranin) หรือ อีโอซิน (eosin)
แบคทีเรียบางชนิดมีรงควัตถุ เรียกว่า bacteriochlorophyll จึงไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง
แบคทีเรียสืบพันธุ์โดยการแบ่งเซลล์แบบทวีคูณ (binary fission) ได้ทุก ๆ 20 นาที แต่หากสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมจะสร้างเอนโดสปอร์ (endospore)
ความสำคัญของแบคทีเรีย ต่อสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ ดังนี้
เป็นผู้ย่อยสลาย ทำให้มีการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ
ตรึงในโตรเจนในบรรยากาศให้เป็นเกลือไนเตรตได้ เช่น Rhizobium ในปมรากพืชตระกูลถั่ว
ผลิตสารปฏิชีวนะ (antibiotic) ใช้รักษาโรคได้
ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ในมนุษย์
ส่วนใหญ่เป็นเซลล์เดี่ยว ๆ บางชนิดเป็นสายยาวมีเมือกใสหุ้มไม่มีคลอโรพลาสต์ แต่มีรงควัตถุ พวกคลอโรฟิลล์เอ แซนโทฟิลล์และ c - phycocyanin (สีน้ำเงิน) กับ c - phycoerythrin (สีแดง)กระจายอยู่ในไซโทพลาซึม รอบนอกผนังเซลล์มีพอลิแซกคาไรด์หุ้มอยู่ และมีรงควัตถุ แคโรทีนนอยด์และไฟโคบิลินทำให้มีสีต่างกัน เช่น น้ำเงิน แดง ม่วง หรือน้ำตาล สืบพันธุ์แบบ ไม่อาศัยเพศโดยการแบ่งเซลล์จาก 1 เป็น 2 หรือการขาดเป็นท่อน ๆ (fragmentation)
ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมจะสร้าง อะคีนิท (akinete) ซึ่งมีผนังหนาและมีอาหารสะสมในเซลล์มาก
อะคีนิท (ตรงบริเวณที่ลูกศรชี้)
ตัวอย่างเช่น สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน บางชนิดสามารถตรึงไนโตรเจนได้ : นอสตอก (Noatoc)
แอนาบีนา (Anabaena)เป็นต้น บางชนิดเป็นแหล่งอาหารโปรตีน : สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น